TranslatePress ปลั๊กอินสุดล้ำ ที่จะทำให้การแปล WordPress ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

คุณกำลังมองหาวิธีการแปลเว็บไซต์ของคุณให้เป็นภาษาอื่นๆ หรือไม่? เราจะมาช่วยคุณแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีที่ง่ายและสะดวกสบาย วันนี้เราจะแนะนำให้คุณใช้ปลั๊กอิน TranslatePress ในการแปลเว็บไซต์ WordPress ของคุณ เครื่องมือพิเศษนี้จะช่วยให้เรื่องที่ดูซับซ้อนกลายเป็นงานเล็กน้อยเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส

How to easily translate your WordPress website with TranslatePress.

ทำไมต้องเลือกใช้ TranslatePress เพื่อแปลเว็บไซต์ WordPress

WordPress เป็นระบบจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ยอดนิยมที่มีจุดเด่นในด้านความยืดหยุ่นและใช้งานง่าย โดยเฉพาะการรองรับการแสดงผลหลากหลายภาษาได้อย่างราบรื่น ด้วยการใช้งานธีมและปลั๊กอินสำหรับ WordPress จึงทำให้การแปลเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายดาย

หากเว็บไซต์ของคุณมีวัตถุประสงค์เพื่อทำธุรกิจ การสร้างเวอร์ชันที่มีหลายภาษาจะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้กว้างขวางมากขึ้น การแปลเนื้อหาภายในเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม การแปลด้วยตนเองอาจทำให้เสียเวลาและอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย การใช้เครื่องมือแปลอัตโนมัติเช่น Google Translate ก็อาจไม่ได้รับความแม่นยำและผิดเพี้ยนจากเจตนาเดิม

ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการแปลเว็บไซต์ WordPress คือการใช้ปลั๊กอิน TranslatePress ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถแปลเนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำด้วยตนเอง โดยใช้เครื่องมือแก้ไขแบบสด (Live Editor) นอกจากนี้ TranslatePress ยังสามารถแปลธีมและปลั๊กอินอื่นๆ ในระบบได้อีกด้วย

ขั้นตอนที่ 1 ติดตั้งปลั๊กอิน TranslatePress ใน WordPress

หากคุณต้องการแปลภาษาใน WordPress ต้องทำการติดตั้งและเปิดใช้งานปลั๊กอิน TranslatePress ซึ่งสามารถบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการติดตั้งปลั๊กอินใน WordPress เมื่อติดตั้งและเปิดใช้งานแลเว ให้ไปที่หน้าการตั้งค่า >> TranslatePress ในส่วนของแดชบอร์ดผู้ดูแลระบบ WordPress เพื่อกำหนดการตั้งค่าปลั๊กอินของคุณ

จากนั้นคุณต้องไปที่การตั้งค่าทั่วไป เพื่อทำการเลือกภาษาเริ่มต้นของเว็บไซต์ จากเมนู ‘Default Language’ 

และนี่เป็นภาพแสดงภาษาใน WordPress ของคุณที่ทำการดาวน์โหลดไว้แล้ว

Choose-default-language-at-translatePress

หลังจากนั้นให้เลิอกภาษาที่คุณต้องการแปล โดยไปที่เมนู “All Languages” และเลือกภาษาที่คุณต้องการแปลจากเมนูด้านล่าง “Language” และคลิกที่ปุ่ม “Add”

Choose-translation-language

เลื่อนลงไปที่การตั้งค่า “Native Language” เพื่อตั้งให้เป็นภาษาหลักของเว็บไซต์ จากนั้นต้องเลือกว่าต้องการแสดงชื่อภาษาเป็นภาษาของตนเอง หรือเป็นภาษาอังกฤษ แลกดเลิอก “ใช่” หรือ “ไม่” ตามลำดับ

ตัวเลือกถัดไปคือการเลือกว่าคุณต้องการแสดงชื่อภาษาเริ่มต้นใน URL เป็นไดเร็กทอรี่ย่อยหรือไม่ ตัวอย่างเช่น http://example.com/en/ ซึ่งแนะนำว่าไม่ควรแก้ไชอะไรในส่วนนี้ ให้ใช้เป็นการตั้งค่าเริ่มต้นจะดีสำหรับการปรับแต่งโปรแกรมค้นหา

จากนั้นให้ไปที่การตั้งค่า “Force language in custom links’ setting” คลิกที่ “ใช่” ที่เป็นตัวเลือกเริ่มต้น เมื่อคลิกแล้วจะเป็นการอนุญาตให้ปลั๊กอินเปลี่ยนลิงก์ที่กำหนดเองสำหรับภาษาที่แปล ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ URL เป็นมิตรกับ SEO มากยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อเว็บไซต์

Other-general-settings-in-translatePress

ในตัวเลือกถัดไป จะสามารถเลือกได้ว่าต้องการใช้ Google แปลภาษาสำหรับการแปลอัตโนมัติหรือไม่ ต้วเลือกเริ่มต้นคือ “ไม่” เพราะเราต้องการที่จะกำหนดภาษาเอง หรือหากคุณต้องการเเปลอัตโนมัติด้วย Google Transalte ก็เลือก “ใช่”

สิ่งที่คุณต้องทำคือการระบุรหัส Google Translate API ในตัวเลือกถัดไป จากนั้นจะพบกับลิงก์ใต้ตัวเลือก ซึ่งจะแสดงคำแนะนำในการรับลิงก์

Google-translate-api

และส่วนสุดท้ายที่คุณจะต้องทำในขั้นตอนนี้ คือ การตั้งค่าตัวเลือกเกี่ยวกับวิธีที่คุณต้องการแสดงตัวสลับภาษาบนเว็บไซต์ของคุณ โดย TranslatePress จะมีสามทางใกห้เลือก

คุณสามารถใช้รหัสย่อเพื่อเพิ่มตัวสลับไปยังแมนูการนำทางของคุณ (Navigation menu) หรือแสดงเมนูแบบลอย (Floating menu) แน่นอนว่าในบทความนี้เราจะแสดงวิธีการเพิ่มตัวสลับภาษาในเว็บไซต์ของคุณ

เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วให้คลิกที่ปุ่ม “บันทึกการเปลี่ยนแปลง” เพื่อจัดเก็บการตั้งค่าของคุณ

ขั้นตอนที่ 2 แปลเนื้อหาเว็บไซต์ให้เรียบร้อย

หากต้องการแปลเว็บไซต์สามารถคลิกที่เเท็บ “Translate Site” ในส่วนของผู้ดูแลระบบ WordPress (WordPress admin bar)

การดำเนินการในส่วนนี้จะเปิดตัวแก้ไขแปลสด (Live translation editor) ในแท็บเบราว์เซอร์ใหม่

TranslatePress Settings - Translate Site

จากนั้นให้คลิกที่ไอคอนแปลที่เป็นสีน้ำเงิน ซึ่งตะอยู่ถัดจากข้อความบนเว็บไซต์ของคุณที่ต้องการแปล หลังจากนั้น TranslatePress จะโหลดข้อความที่เลือกโดยอัตโนมัติในคอลัมน์ในด้านซ้ายของตัวแก้ไขการแปล (Translate editor)

Translate-website

เมื่อโหลดข้อความในคอลัมน์แล้ว ให้เพิ่มการแปลี่ยนแปลงในช่องด้านล่าง จากนั้นคลิกปุ่ม “Save Translation” ที่อยู่ด้านบน เพื่อจัดเก็บการเปลี่ยนแปลงให้เรียบร้อย ซึ่งวิธีนี้คุณจะสามารถแปลเนื้อหาทั้งหมดบนหน้าใดก็ได้ในเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงเมนูการนำทาง (Navigation menus), ฺButton, Sidebar, Widgets, Meta-text และอื่น ๆ ด้วยการใช้ TranslatePress นอกจากนั้นยังสามารถเริ่มแปลหน้าหรือโพสต์บนเว็บไซต์ของคุณได้ทันทีเมื่อเข้าสู่ระบบ จากนั้นทำการคลิกที่ปุ่ม “Translate Page” ที่ด้านบนเพื่อเปิดโปรแกรมการแก้ไขสด (Live editor)

Directly-translate-page

ข้อดีอีกประการหนึ่งของปลั๊กอินนี้ก็คือ คุณจะต้องแปลสตริง (String หรือ Character sequence) ที่ระบุไว้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อคุณแปลเรียบร้อยแล้ว ปลั๊กอินจะทำการแปลให้คุณโดยอัตโนมัติในที่อื่น ๆ โดยที่คุณไม่ต้องแปลซ้ำอีก 

ขั้นตอนที่ 3 เพิ่มตัวสลับภาษาในเว็บไซต์

หลังจากที่แปลเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว จะต้องทำการเพิ่มตัวสลับภาษาในเว็บไซต์ ตัวสลับภาษาจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกภาษาเมื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ โดยปกติจะมีการแสดงสัญลักษณ์ธงของแต่ละประเทศอยู่ เพื่อระบุภาษาที่มีในเว็บไซต์ของคุณ

TranslatePress ช่วยให้สามารถเพิ่มตัวสลับภาษาได้โดยใช้โค้ดสั้น ๆ เปรียบเสมือนกับ Navigation menu หรือเป็นแบนเนอร์แบบลอย (Floating banner) ตัวสลับภาษาสามารถแสดงเป็นแฟล็ก ชื่อภาษา หรือทั้งสองรูปแบบนี้เลย

การเพิ่มตัวสลับภาษาใน WordPress โดยใช้โค้ดสั้น ๆ 

หากคุณต้องการเพิ่มตัวสลับภาษาใน WordPress โดยใช้โค้ดย่อ ๆ ให้ไปที่หน้าการตั้งค่า >> TranslatePress จากแดชบอร์ดผู้ดูแลระบบ เมื่อคุณอยู่ในหน้า “การตั้งค่า” ให้เลื่อนลงมาที่แท็บ “ทั่วไป” จากนั้นคัดลอกโค้ดย่อสำหรับตั้งค่าตัวสลับภาษา ในส่วน “Language-Switcher” 

Copy-shortcode-for-language-switcher

ตอนนี้คุณสามารถวางโค้ดที่คัดลองมานั้นบนหน้าโพสต์หรือวิดแจ็ตที่อยู้ในแถบด้านข้างใดก็ได้ที่คุณต้องการแสดงตัวสลับภาษา

นี่คือลักษณะของตัวสลับภาษาในเว็บไซต์สาธิตของเรา

shortcode-language-switcher

การเพิ่มตัวสลับภาษาในส่วนของ WordPress navigation menu

วิธีการง่าย ๆ เพียงแค่ไปที่หน้า Appearance » Menus จากแดชบอร์ด จากนั้นคลิกที่แท็บ “ตัวสลับภาษา” ในส่วน “เพิ่มรานการเมนู” ที่มุมซ้ายของหน้าจอ เมื่อขยายแท็บแล้ว ให้ตรวจสอบภาษาที่คุณต้องการให้แสดงในตัวสลับภาษา หลังจากนั้นคลิกที่ “เพิ่มเมนู” เพื่อเพิ่มตัวสลับภาษาเป็นรายการเมนู 

Add-language-switcher-in-nav-menu

เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้วให้คลิกที่ปุ่ม “บันทึกเมนู” เพื่อจัดเก็บการเปลี่ยนแปลงของคุณ ตอนนี้คุณจะเห็นตัวเปลี่ยนภาษาเพิ่มในเมนูการนำทาง (Navigation menu) โดยจะมีลักษณะดังนี้ใน WordPress

switcher-added-in-nav-menu

การเพิ่มตัวสลับภาษาเเบบลอยตัว (Floating Language Switcher)

สามารถเพิ่มได้ไม่ยาก เพียงไปที่ การตั้งค่า >> TranslatePress ในส่วนของแดชบอร์ดผู้ดูแลระบบ จากนั้นเลื่อนลงไปที่ “ตัวสลับภาษา” ในเเท็บ “ทั่วไป” ทำการตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ทำเครื่องหมายที่ช่องถัดไปจากตัวเลือก “Floating language selection”

คุณยังสามารถเปลี่ยนตำแหน่งของตัวสลับภาษาเเบบลอยจากเมนูด้านล่างที่อยู่ตรงมุมขวาของหน้าจอ

Add-a-floating-language-switcher

จากนั้นบันทึกการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าให้เรียบร้อย และตอนนี้คุณสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์เพื่อดูตัวสลับภาษาแบบลอยตัวได้ที่ด้านล่างหน้าเพจในทุกหน้าของเว็บไซต์

Added-floating-switcher

เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีการแปลเว็บไซต์ WordPress ด้วยการใช้ปลั๊กอิน TranslatePress ซึ่งคุณสามารถดูบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการสร้างแผนผังเว็บไซต์หลายภาษาใน WordPress และรายการปลั๊กอิน WordPress ที่ดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์ธุรกิจ

หากคุณชอบบทความนี้ สามารถติดตามการอัปเดตเว็บไซต์ของเราได้ที่นี่ รับรองว่าเราจะมาอัปเดตความรู้ เรื่องราว ข่าวสาร และเทคนิคใหม่ ๆ เกี่ยวกับ WordPress และ SEO ให้กับคุณอยู่เป็นประจำ ไม่อยากพลาดบทความน้ำดี ต้องติดตามเอาไว้เลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *