รับสอนทำเว็บ E-Commerce เรียนทำเว็บขายของออนไลน์ ด้วยปลั๊กอิน WooCommerce แบบตัวต่อตัว สอนผ่าน Google Meet ไม่ต้องเดินทางให้เสียเวลา เรียนที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ เรียนจบทำเว็บได้ทันที พร้อมให้คำแนะนำ ปรึกษาได้ตลอด 1 ปีเต็ม
ไม่ใช่แค่สินค้าดีแล้วจะทำให้เกิดยอดขายในอนาคตได้ แต่ต้องมาพร้อมกับระบบการจัดการที่ดีด้วย สิ่งที่ควรคำนึงถึงประการแรกคือ เราจะขายสินค้าอะไร ต่อด้วยการเรียนทำเว็บขายของออนไลน์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการกระจายสินค้าให้เข้าถึงคนซื้อมายิ่งขึ้น ต่อด้วยการเรียนรู้เกี่ยวองค์ประกอบในการทำเว็บไซต์ว่าต้องมีอะไรบ้าง แต่ละส่วนคืออะไร หน้าที่ ความสำคัญ ที่ต้องเข้าใจ Application ที่จะใช้ในการทำเว็บ การเลือกโฮสติ้งเพื่อให้เหมาะกับการขายของออนไลน์ คำนวนจำนวนคนเริ่มต้น วิธีการเช่าโฮสติ้งจากผู้ให้บริการทั้งในไทย ต่างประเทศ รวมไปถึงการจดโดเมนเนมกับแหล่งจดที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ มีความคุ้มค่า มีนามสกุลให้เลือกมากมาย เรียนรู้โปรแกรม วิธีการใช้งาน ที่จำเป็นในการทำเว็บไซต์ เช่น Filezilla , CrossFTP , WinRAR เป็นต้น
เรียนรู้วิธีการออกแบบเว็บไซต์ด้วย Adobe XD ขั้นพื้นฐาน รูปแบบ ชนิดของรูป รวมไปถึงแหล่งดาวน์โหลดรูปฟรี การตกแต่งภาพ ปรับความคมชัด ความแตกต่างระหว่าง Bitmap กับ Vector นามสกุลของรูปภาพที่เหมาะสมในการทำเว็บ JPG , PNG , WEBP , AVIF เราสอนโดยใช้ Canva Pro เพื่อให้รู้ถึงขนาดของรูปที่ใช้กันส่วนใหญ่บนเว็บไซต์ รวมไปถึงการออกแบบรูปสินค้าให้โดดเด่น มีเอกลักษณ์ในส่วนของ Feature Image , Image Gallery วิธีกำหนดขนาดรูปบน WordPress ตั้งแต่เริ่มต้น การเตรียมโลโก้ ภาพเวกเตอร์แบบ SVG เรื่องของสี ความหมาย และการใช้งานพร้อมแหล่งชุดสีเพื่อใช้ในการออกแบบ ข้อความ การเลือกฟอนต์รวมไปถึงการจัดข้อความ แหล่งรวมฟอนต์ฟรีในไทย ต่างประเทศ การจัดวาง Layout การนำเสนอข้อมูลบนรูปภาพและเว็บไซต์ให้เหมาะสม
เรียนเกี่ยวกับระบบการจัดการ Hosting ที่ใช้งานในปัจจุบัน เช่น Direct Admin , cPanel , Plesk , Hestia ว่าคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร จะใช้อันไหนดีด้วยเหตุผลอะไร ทำไมถึงต้องมีออกมาให้เลือกเยอะแยะมากมาย เรียนการสร้าง Database , FTP Account , Email ของตัวเอง @domain ต่อท้าย , วิธีใส่ SSL ฟรี ให้กับโฮสติ้ง รวมไปถึงการเพิ่ม Domain ใหม่ลงในโฮสติ้งตัวเดียวกัน การลบสิ่งที่ไม่ต้องการออก อย่างละเอียด
เริ่มเรียนการติดตั้ง WordPress ลงโฮสติ้งด้วยระบบซอฟแวร์ Softaculous และแบบ Manual ผ่าน FTP วิธีการเข้าสู่ระบบหลังบ้านของเว็บไซต์ ไปจนถึงการตั้งค่าพื้นฐานให้กับ WordPress เรียนรู้ฟังก์ชั่นต่างๆ ของ WordPress ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสร้าง – ลบ แก้ไข Post , Page , Menu , Widget รวมไปถึงการใส่ Site Title การสร้าง Categories ให้กับ Post การกำหนดตำแหน่งเมนู ตั้งค่า Static ของหน้า Home , หน้า Blog ปรับเรื่องโครงสร้างของเว็บ Permalink การใส่รูปภาพ Media ลบรูปภาพ วิธีการลงข้อมูลในหน้าเพจ โพสต์ ทำลิงค์เชื่อมโยง Internal Link , Outbound Link บนข้อความ รูปภาพ ปรับสีของข้อความ ฝึกใช้แถบเครื่องมือในหน้า Page , Post และอื่นๆ อีกมากมาย
เรียนรู้การเลือกธีมที่จะใช้งาน จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ประเภทของธีม คุณสมบัติ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ให้เหมาะกับการทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ E-Commerce รองรับ WooCommerce พร้อมวิธีการติดตั้งธีมผ่าน WordPress , ติดตั้งธีมผ่าน FTP การใช้งานธีม ปรับแต่ง ปรับเปลี่ยนหน้าเว็บในส่วนของ Header , Information / Body , Footer ให้โดนใจ สวยงาม เปิดใช้งานฟังก์ชั่นขั้นสูงของธีม (กรณีที่มี)
เรียนรู้การติดตั้ง ตั้งค่า WooCommerce ในทุกส่วนแบบละเอียด รวมไปถึงปลั๊กอินอื่นๆ ที่ทางผู้เรียนต้องการโดยสามารถระบุมาก่อนเรียนได้ 2-3 ตัว ที่เหลือจะเป็นการสอนในส่วนของปลั๊กอินทั่วไปที่ควรมีติดเว็บไซต์ไว้ เพราะนอกจากจะส่งผลดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บได้อีกด้วย
การปรับแต่งเว็บไซต์ในทุกมิติ เพื่อให้เว็บสามารถแสดงผลได้ภายในเวลา 3 วินาที ถึงแม้ว่าสินค้าภายในเว็บจะมีมากกว่า 1,000 ชิ้นก็ตาม เรียนรู้ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์แบบครบครัน ภาพรวมของการเพิ่ม Performance วิธีการติดตั้ง ตั้งค่า และใช้งานปลั๊กอิน WP-Rocket , ShortPixel Image Optimize เพื่อดึงประสิทธิภาพที่หลับใหลให้ตื่นขึ้น
เรียนรู้วิธีดูแลเว็บไซต์แบบมืออาชีพ ไร้ปัญหามากวนใจ แบบเป็นระบบ ด้วยเครื่องมือที่ใช้งานง่ายแถมฟรีอีกด้วย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเป็นกังวลว่าเว็บจะมีปัญหาหรือไม่ อีกทั้งยังไม่ต้องจ้างคนมาช่วยดูแลเว็บไซต์อีกด้วย
WP-Rocket ใช้เพื่อเพิ่ม Performance ให้กับเว็บไซต์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยสามารถปรับแต่งให้เว็บมี Page Speed ลดการใช้งาน Java Script รวมถึง CSS สร้าง Cache Browser , Page Cache ทั้ง Mobile และ Desktop แปลงรูปให้เป็น Webp เพื่อช่วยลดการโหลดรูปลงได้อย่างดีเยี่ยม
WooCommerce ปลั๊กอินที่ใช้สร้างระบบตระกร้าสินค้าออนไลน์ ที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ระบบ WooCommerce ถูกออกแบบมาเพื่อให้การสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ง่ายขึ้น ชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว รองรับการทำงานในทุกอุปกรณ์ เป็นไฮไลน์ของการเรียนทำเว็บขายของออนไลน์เลยทีเดียว
Rankmath สุดยอดปลั๊กอิน SEO ที่มาพร้อมกับ Feature มากมาย ที่ช่วยให้การทำ SEO บน WordPress ง่ายมากยิ่งขึ้น แถมยังรองรับการทำงานกับ WooCommerce ได้เป็นอย่างดี เข้ากันได้กับธีมทั่วไป เชื่อมต่อกับ Google Analytics และ Google Search Console ได้อย่างง่าย สร้าง Sitemap ให้แบบอัตโนมัติ
Malcare ถูกพัฒนาขึ้นโดย Cloudways เจ้าของโฮสติ้งที่ดีที่สุดในโลกเจ้าหนึ่งที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านเว็บไซต์ มีความสามารถทางด้านการป้องกัน Malware การโจมตีรูปแบบต่างๆ เช่น Brute Force , DDOS มีระบบ Firewall ที่แข็งแรง โดยถูกจัดให้เป็น 5 ปลั๊กอินด้าน Security ที่ดีที่สุดในปี 2023
Contact Form 7 สร้างฟอร์มติดต่อได้ง่ายมาก เพียงเพิ่มสิ่งที่ต้องการลงไปเพื่อให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูล แล้วทำการเพิ่ม Short Code เข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการก็จะได้ฟอร์มที่สวยงาม ดูเป็นมืออาชีพอย่างมาก ในระยะเวลาไม่ถึง 5 นาทีเท่านั้น
Wordfence เป็นอีกหนึ่งปลั๊กอินที่เรียกได้ว่า ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเว็บที่ทำกับ WordPress เกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ใช้งานตัวนี้อยู่ นอกจากจะถูกสร้างขึ้นเพื่อให้รองรับ Webserver ทุกระบบแล้ว ยังมีฐานข้อมูลด้านการป้องกันภัยทางไซเบอร์เป็นของตัวเองอีกด้วย
เหมาะกับคนที่ชอบเรียนแบบคนเดียว มีสมาธิมากกว่า สะดวกในการตั้งคำถาม ไม่ต้องเกรงใจคนอื่น ไม่ต้องรอ เข้าถึงเนื้อหาได้ครบทั้งหมด
ค่าบริการทั้งหมด 25,000 บาท / คน
เรียนทั้งหมด 4 วัน วันละ 5 ชั่วโมง
เหมาะกับคนที่ต้องการเรียนเป็นกลุ่ม 3 คนขึ้นไป โดยบรรยากาศในการเรียนจะคึกคักเพราะต้องพยายามทำให้ได้ มี Workshop ที่ตื่นเต้น สนุกสนาน
ค่าบริการทั้งหมด 20,000 บาท / คน
เรียนทั้งหมด 4 วัน วันละ 5 ชั่วโมง
ถ้าจะให้พูดถึง WooCommerce หลายคนก็จะรู้จักเจ้าตัวนี้กันอยู่แล้วเพราะมันคือปลั๊กอินขายสินค้าออนไลน์ ที่มาพร้อมกับระบบตระกร้าสินค้า ระบบชำระเงิน ระบบขนส่ง คูปองส่วนลด โดยสามารถนำมาใช้บนเว็บที่ทำจาก WordPress ได้เป็นอย่างดี มีความเสถียร เหมาะกับเว็บที่ขายสินค้าที่จับต้องได้เป็นหลัก ส่วนระบบขายสินค้าดิจิตอลภายใน WooCommerce นั้นก็ทำมาให้ได้ทดลองใช้งานกัน มีฟังก์ชั่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เหมือนจะไม่ได้พัฒนามาเพื่อซื้อขายสินค้าประเภทดิจิตอลเป็นหลักนั่นเอง ต่างกับ Easy Digital ที่ถูกพัฒนามาในแนวทางของระบบซื้อขายสินค้าดิจิตอลเป็นหลัก มีระบบดาวน์โหลดเฉพาะตัว อีกทั้งยังมีระบบสมาชิก ที่คล้ายๆ กันกับ WooCommerce ให้ใช้งาน โดยรองรับการทำงานกับธีมที่ค่อนข้างจำกัด พัฒนาค่อนข้างยาก มีการใช้งานที่น้อยกว่า WooCommerce
หากใครสนใจก็ลองนำมาใช้งานกันดูได้ แล้วจะพบความแตกต่าง จุดเด่น ข้อดี ข้อเสียของแต่ละตัวที่แตกต่างกันออกไป แล้วหวังว่าคุณจะเจอตัวที่ถูกใจ ถูกกับงานที่ใช้นะครับ
ตอบได้เลยว่า จริง เพราะคนที่เรียนทำเว็บกว่า 90 เปอร์เซ็นต์มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองหลังจากเรียนจบ สามารถปรับแต่ง ขึ้นเว็บใหม่ๆ ได้เองอย่างคล่องแคล่ว
เราใส่ใจทุกคนที่มาเรียน เรียนแล้วต้องทำได้ นั่นคือสิ่งที่เราสามารถการันตีได้ว่า เมื่อคุณเรียนกับเรา ไม่ว่าอย่างไร เราจะสอนให้คุณทำจนกว่าจะได้ เจอเว็บไหนก็สามารถทำได้ทันที แม้จะต้องใช้เวลามากกว่าปกติก็ตาม อีกทั้งเนื้อหาที่เรียนทั้งหมดของเรามีการอัพเดทอย่างสม่ำเสมอใหม่ทั้งหมด ครบทุกเรื่องเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์เบื้องต้น มี Workshop และการบ้านให้ไปทำเพื่อให้เกิดการพัฒนาสกิล ติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีคำแนะนำดีๆ ให้กับผู้เรียนอยู่ตลอดเวลา และยินดีให้คำปรึกษาเมื่อเจอปัญหาในการทำเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมราคาของเราถึงสูงกว่าที่อื่น
เรียนได้หากคุณมีความตั้งใจจริง เพราะเรามีนักเรียนตั้งแต่ 15 – 55 ปี ซึ่งหากคุณอยู่ในช่วงอายุที่ได้แจ้งไปแล้วละก็คุณก็เรียนได้ทันที
ผู้ที่สนใจเรียนทำเว็บขายของออนไลน์ สามารถชำระเงินผ่านช่องทางบัญชีธนาคารได้ทุกวัน
